วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553


ต้นกำเนิด VESPA !!!

แรกเริ่มเดิมที่กว่าจะมีเวสป้า
เวส ป้าเกิดขึ้นที่ประเทศอิตาลี ในปี 1946 บริษัท P.R.G.O
ซึ่งเป็นของสองพี่น้อง คือ แอลมาโดพี่ชายและแอลนิโคลน้องชาย
ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องเกี่ยวกับเครื่อง บินไม่ว่าจะเป็นของเรื่องการออกแบบ
การสร้างเครื่องบิน เป็นต้น ตอนช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2
แต่ในตอนหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2
เมื่ออิตาลีแพ้สงครามในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองธุรกิจต่างๆรวมถึงพัฒนาทาง
ด้านการผลิตต่างๆในอิตาลีปิดตัวลงเหมือนกับ

ทุกที่ในยุโรปที่ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่เคยทำรายได้และเป็นที่ต้องการใน
ยามบ้านเมืองสงบถูกลืมไป
ความต้องการเครื่องใช้ในการรบ อาวุธ กระสุน และอาหารต่างๆ
กลับเป็นที่ต้องการมากขึ้นโรงงานอุตสาหกรรม
ส่วนใหญ่ โรงงานถูกทำลายลงด้วยระเบิดของฝ่ายข้าศึกครั้งแล้วครั้งเล่า
พวกคนงาน และผู้ใช้แรงงานตาม
โรงงานอุตสาหกรรมก็แยกย้ายกันไป รวมทั้งความหวังของผู้คนทั้งหลายก็พังครืนลง
จะคงเหลืองก็แต่นักธุรกิจ ที่มีวิญญาณแห่งการต่อสู้ และความเข้มแข็งเท่านั้นที่สามารถลุกขึ้นอีกครั่ง
บนกองเถ้าถ่านแห่งสงครามได้
เอนริโก เพจจิโอ คือหนึ่งในผู้มีความหวัง ในปีค.ศ.1938 เอนริโก เพจจิโอ
ได้รับช่วงโรงงานสองแห่งในแคว้นทัสคานี จากบิดาของเขา และในอีกเจ็ดปีต่อมา
โรงงานที่เป็นความหวังก็ถูกทำลายลงสิ้นด้วยลูกระเบิดแห่งสงคราม
โชคดีที่เพจจิโอ ไม่ได้สืบทอดโรงงานเป็นมรดกแต่อย่างเดียว
เขายังได้รับไหวพริบ และความคิดริเริ่มที่ดีมาด้วย
เพจจิโอรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ผู้คนหลังสงครามต้องการมากที่สุด
เขาสามารถผลิตสินค้าป้อนตลาดในระยะหลังสงครามด้วยราคาที่สมเหตุสมผล
ในขณะที่ต้นทุนก็ไม่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนในการผลิตเป็นสิ่งที่เขาเรียนรู้
และจดจำได้ดี จึงไม่เป็นเรื่องยากที่จะผลิตสินค้าสักตัวขึ้นมา
แต่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด คือ วิศวกรที่เป็นเลิศ เพื่อการเริ่มต้นที่ถูกต้องเท่านั้น
ธุรกิจ ของครอบครัวเพจจิโอ ตั้งแต่แรกเริ่มเดิมทีมักเกี่ยวข้อง
กับการเดินทางเสมอ ย้อนกลับไปในปีค.ศ.1894 สมัยที่โรนัลโด เพจจิโอ
บิดาของเขา ได้พัฒนาเครื่องตัดไม้ให้เข้ามามีบทบาทในการเดินเรือ
โดยการว่าจ้างช่างไม้ที่มีชื่อ เพื่อสร้างท่าเรือที่ดีที่สุด
และในช่วงตอนต้นศตวรรษ เขาได้พัฒนาตู้รถไฟนานาชนิดเพื่อเข้าสู่ระบบสาธารณูปโภค
ในศตวรรษที่ยี่สิบ เขาได้ลงมือสร้างเรือ และผลิตเครื่องบินต่างๆ
และที่พิเศษที่สุดคือ เขายังได้ชื่อว่าเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกการสร้างเครื่องบิน
โดยสารสำหรับนัก ท่องเที่ยว นอกจากการสร้างเครื่องบินเพื่อลำเลียงทหารและ
สินค้าทั่วๆไป เมื่อได้ดูปูมหลังของครอบครัวนี้แล้ว
จะไม่ประหลาดใจเลยว่าการผลิตยานยนตร์ใดๆไม่ใช่เรื่องยากเลย
สำหรับนายเอนริโอ เพจจิโอ
















ความคิดที่จะสร้างยานยนตร์ชนิดใหม่ๆ ของเพจจิโอไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะในอดีตก็เคยมีมาก่อน เพจจิโอพยายามที่จะสร้างภาพลักษณ์
ของยานยนตร์ชนิดใหม่ที่นำเอาคุณสมบัติดีๆ ของจักรยานยนตร์
และจักรยานมารวมกัน ตัดจุดบกพร่องของทั้งสองออก
แต่การผลิตสินค้าที่มีราคาย่อมเยาว์กลับเป็นปัญหาที่จะต้องนำมาขบคิดมากกว่า
เนื่องจากในช่วงนั้น (หลังสงคราม) ชาวอิตาเลียน
ไม่สามารถที่จะตอบรับสินค้าที่มีราคาแพงได้
เพจจิโอตัดสินใจที่จะชวนวิศวกรที่มีความสามารถอย่าง
คอลลาดิโน ดัสคานิโอ เข้าร่วมงานเพื่อความแข็งแกร่ง








กำเนิด VESPA

โจทก์ ที่ดัสคานิโอได้รับจากเพจจิโอ คือ รถสกู๊ตเตอร์
ที่ผู้หญิงสามารถขี่ได้อย่างสะดวกสบาย เหมือนผู้ชาย
สามารถป้องกันผู้ขับขี่ได้จากการลื่นไหลในวันฝนตก
สามารถป้องกันเสื้อผ้าจากคราบน้ำมันได้ และที่สำคัญจะต้องมียางอะไหล่
ตัวรถจะต้องมีน้ำหนักเบา ง่ายต่อการขับขี่ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมต้องไม่สูง
และคำตอบของโจทก์ข้อนี้ ก็คือ "Vespa"
แบบ ของรถรุ่นแรก คือ การนำเอาอะไหล่อะไรก็ตามที่มีอยู่เข้ามา
ประกอบกันขึ้นเป็นรถ มีชื่อว่า ปาเปริโน หรือ โดนัลดัก ในภาษาอิตาเลียน
เพจจิโอกล้าพอที่จะให้ดำเนินการผลิตรถรุ่นแรกนี้ทันที
การร่างภาพของรถสกู๊ตเตอร์นี้ ใช้เวลาเพียงห้าเดือน
ด้วยมุมมองของนักวิศวกรที่ชาญฉลาด ผู้ซึ่งเคยประดิษฐ์เฮลิคอปเตอร์บังคับ
ในเวลาสั้นๆ นี้ได้มีปัญหาเกิดขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ปัญหาทางเทคนิค
ปัญหาการส่งกำรังบำรุง และปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องยนตร์
แต่การทดลองก็มีขึ้นในเดือนเมษายน ปี ค.ศ.1946 รถสกู๊ตเตอร์
คันแรกได้เกิดขึ้นแล้ว ขับขี่โดยดัสคานิโอ
ออกแบบพิเศษด้วยการใช้เครื่องยนต์สองจังหวะ
ภาพของเขาได้ถูกพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์เพื่อเผยแพร่สู่สาธารณะชน

ดัส คานิโอได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากบรรดาแรงงานที่มีอยู่
ใช้เครื่องจักรในการทำตัวถังที่เบาแต่มีความคงทนสูง
และแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักเครื่องที่อยู่ภายในได้ สามารถปกป้องช่วงขา
และเสื้อผ้าของผู้ขับขี่ ล้อหน้าเชื่อมต่อเข้ากับเพลาและคานบังคับ
สามารถเปลี่ยนยางได้อย่างง่ายดาย ด้วยเครื่องยนต์ 98 C.C.
ใช้น้ำมันเพียง 5 % ในการเดินเครื่อง
ด้วยระบบทำความเย็นซึ่งถูกติดตั้งอยู่ด้านข้างของล้อหลัง
ดัสคานิโอเชื่อว่าระบบต่างๆ ไม่น่าที่จะซับซ้อนทุกๆอย่างควรเป็นอยู่อย่างง่ายๆ
ตามกลไกของตัวมันเอง มีสามเกียร์ที่บังคับโดยแฮนด์ข้างซ้าย
ดัสคานิโอไม่นิยมการเปลี่ยนเกียร์ที่เท้าเหมือนกับมอร์เตอร์ไซด์ทั่วไป
Scooter มีน้ำหนัก 175.6 ปอนด์ ความเร็วสูงสุด 45 ไมล์ต่อชั่วโมง
และความเร็วปกติบนท้องถนนคือ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง
ใช้น้ำมันหนึ่งแกลลอนต่อหนึ่งร้อยไมล์ และเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลเพียงเล็กน้อย
และน่าจะเป็นที่ถูกใจของผู้ขับขี่ Scooter สามารถสร้างฝันของเพจจิโอให้เป็นจริง
ได้มากกว่ายานยนต์ทุกชนิดที่ผ่านมา ทั้งในแง่ของประโยชน์ใช้สอย
รูปลักษณ์และชื่อ ส่วนที่ป่องออกและเว้าเข้าเหมือนเอว ส่วนหน้าเหมือนปีก
รวมถึงเสียงของเครื่องยนต์สองจังหวะที่มีเสียงหึ่งๆตลอด
เหมือนตัวต่อ Scooter ชนิดนี้จึงได้รับสมญานามว่า Vespa
(แปลว่าตัวต่อในภาษาอิตาลี) Vespa คือปรากฏการณ์ใหม่ของความอิสระ
ความคล่องตัวของผู้ขับขี่ สามารถใช้งานได้ทั้งในระยะทางที่ใกล้ๆ












ในประเทศไทย
Piaggio Group มีตัวแทนจำหน่ายรถเวสป้า ดำเนินธุรกิจโดย บริษัท ไทยเจริญอะไหล่ยนต์ จำกัด

เจาะ..รอยสัก
ศิลปะบนผิวหนัง






จาะ..รอยสัก ศิลปะบนผิวหนัง

การตกแต่งผิวหนังร่างกายที่รู้จักคุ้นกันดีในรูปแบบรอยสัก ความเคลื่อนไหวของศิลปะแขนงนี้ มีความเป็นมายาวนานนับพันปีจวบ ถึงวันนี้การสักยังมีเสียงกล่าวขานนิยมกันในหลายประเทศทั่วโลก

เพิ่งผ่านไปสำหรับ มหกรรมศิลปะรอยสักนานาชาติ การชุมนุมคนรักรอยสักครั้งแรกของประเทศไทยและครั้งแรกของภาคพื้นเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ที่รวบรวมยอด ช่างสักมือดีจากประเทศต่าง ๆ ทั้งแถบประเทศเอเชีย ยุโรปและอเมริกา ช่างสักชาวไทยแถวหน้า คนรักรอยสัก พบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ให้ความรู้ แสดงวัฒนธรรมการสักที่มีเอกลักษณ์ เผยแพร่ สร้างมาตรฐานการสักภายใต้ กฎระเบียบพื้นฐานสากล

จากความเป็นมาของรอยสักที่ผ่านกาลเวลามายาวนาน จุดประสงค์ การสักว่ากันว่ามีหลากหลาย บ่งบอกวัฒนธรรม ความเชื่อการป้องกันภัยอันตราย รวมทั้งเป็นความชอบความ พึงพอใจเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล

รอยสักแต่ละประเทศมีรูปแบบเฉพาะตัวต่างกันไป การสักมีเกิดขึ้นทุกชนชาติ การสักของไทยมีทั้ง สักแบบอักขระโบราณ สักลวดลายในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อิสระ แซ่ออง หรือ จิมมี่ หว่อง ช่างสักผู้บุก เบิกการสักฝากผลงานสร้างสรรค์ศิลปะ บนผิวหนังยาวนานกว่า 34 ปี เริ่มขึ้นพร้อมเพิ่มเติมการสักของประเทศต่าง ๆ ว่า รอยสักเป็นศิลปะที่สืบทอดกันมาแต่โบราณกว่า 30 ปี ทั่วทวีปยุโรป อเมริกาและญี่ปุ่น ต่างมีการจัดงานลักษณะนี้เพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสาร พัฒนาการสักให้ความรู้กับผู้ที่สนใจ

การสักของไทยปัจจุบันเป็นที่รู้จักตอบรับจากชาวต่างชาติ ช่างสัก ไทยมีฝีมือ ความประณีต ขณะเดียวกันคุณภาพการสักไม่เป็นรองใคร ครั้งแรกของงานได้เชิญชวนช่างสักจากทั่วโลกมาร่วมงานเผยแพร่ศิลปะการสักไม่ ว่าจะเป็นสักแบบไทยโบราณ สักแบบญี่ปุ่น บอร์เนียว สักด้วยเครื่องมือสมัยใหม่ สักแบบดั้งเดิมตามวัฒนธรรมท้องถิ่น ฯลฯ ให้รู้จักเข้าใจ

“ลายสักศิลปะญี่ปุ่นที่พูดถึงนิยมกัน การสักของเขานุ่มนวลลึกซึ้งมีความหมายในภาพ ขณะที่การสักของไทยมีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ การสักของไทยมีมายาวนานหลายร้อยปี การสักมีทั้งแบบดั้งเดิมสักยันต์ สักอักขระ สักลายต่าง ๆ การสักอักขระ ที่ดูเหมือนห่างไกลในยุคสมัยปัจจุบัน แต่แท้จริงแล้วยังไม่หยุดการเติบโต ยังคงเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มชาวต่าง ชาติและคนไทย เช่นเดียวกับการ พัฒนาการสักยังคงเดินหน้าต่อไปใน ทุก ๆ ที่”

ลายสักขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมีหลากหลายลวดลายทั้งภาพสัตว์ ดอกไม้ ภาพเขียน ลวดลายกราฟิก ฯลฯ ลายการสักของจีนกับญี่ปุ่นจะมีความต่างกันนิดหน่อย ลายของจีนแม้จะใหญ่เต็มแผ่นหลัง แต่จะไม่ตีกรอบลายเปิดโล่ง



ในความเป็นมาของการสักแบบญี่ปุ่นที่มีเผยแพร่ยังแนะนำให้รู้จัก กับหลักฐานการสักของญี่ปุ่นซึ่งถูกค้นพบจากรูปปั้นดินเหนียวมีการเพ้นท์บน หน้า แกะสลักลวดลายเป็นลายสักมี อายุเก่าแก่ 5,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชหรือมากกว่า นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นที่ถูกค้นพบอายุมากกว่าด้วยเช่นกัน



จากประวัติการสักของญี่ปุ่น ที่มีความเป็นมายาวนานเช่นเดียวกันกับการสักของจีน รอยสักของสองประเทศนี้จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก ส่วนสีสันการสักฝั่งยุโรป อเมริการูปแบบการสักเป็นแบบสมัยใหม่หลากหลายมีการสักทุกรูปแบบ



การสักไม่เพียงใช้เข็มปลายแหลมสักมือ สักด้วยเครื่องซึ่งจะสม่ำเสมอเนียน ยังมีการสักแบบตอกดังเช่นการสักตามแบบฉบับบอร์เนียว ช่างสักคนเดิมเพิ่มเติมว่า การสักรูปแบบนี้เป็นของชาวเกาะมีการสืบทอดมายาวนานกว่าพันปี การสักมีรูปแบบเฉพาะตัวเป็นลายกราฟิก ดอกไม้ ฯลฯ

นอกจากนี้ในเวทีคนรักรอยสักครั้งแรกยังมีข้อมูลการ สักแบบฮาวาย บอกเล่า รอยสักชาวฮาวายส่วนมากจะออกแบบเหมือนกับลวดลายบนกะปะ เงินตรา ลายสักจะแสดง ถึงธรรมชาติ อาทิ ฟันปลาฉลาม ลายถักทอ เม่นทะเล มีความหมายลึกซึ้งโดดเด่นเฉพาะตัว



การสักของ Aotearoa ชื่อชนเผ่าเมาลีในนิวซีแลนด์ ในสมัยโบราณลายสักของเมาลีจะเป็นรอยเฉพาะบุคคลหรือของครอบครัวนั้น ๆ ไม่มีรูปแบบตายตัว แต่ที่นิยมเป็นลายสักรูปโค้งหรือเถาเลื้อย ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของความเจริญก้าวหน้า Tonga ลวดลายการสักนี้พบยาก ในปัจจุบัน จะเห็นเพียงรูปประกอบการสักในสมัยโบราณ รูปแบบ เป็นเหมือนกับการสักแบบ Samoa ซึ่งเป็นแห่งเดียวในโพลินีเซียที่ยังคงรักษารูปแบบโบราณไว้ การสักของผู้ชายจะเริ่มต้นการสักเหนือเอวและ ขยายไปจนถึงเข่า ส่วนการสักของผู้หญิงเพื่อปกปิดบางส่วน เป็นต้น

ขณะที่การสักไร้พรมแดนทุกวันนี้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอย่าง กว้างขวางและแม้ภาพลักษณ์เดิมของการสักจะเปลี่ยนไปกลายมาเป็นการสร้างสรรค์ ศิลปะความงามที่มีเสน่ห์ได้ใจคนรักรอยสัก

แต่ในความเหมาะสม รู้จัก เข้าใจการสัก โดยเฉพาะบริเวณที่ เหมาะควรยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้หลง ใหลสนใจการสักควรคำนึงนึกถึงก่อน ตัดสินใจ เพราะหากพลาดไปไม่เพียง เสียใจแต่ยังยากแก่การแก้ไขให้กลับ มาเหมือนเดิม.